มาทำความรู้จัก ปืนยิงกาวร้อน หรือปืนยิงกาวไฟฟ้า กันเถอะ!!
สำหรับเพื่อน ๆ ที่รักงานประดิษฐ์ หรือแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมบล็อก ไอเดียดี ๆ บ่อย ๆ คงจะคุ้นเคยกับอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ในการจับยึดวัสดุเข้าด้วยกันแทนการใช้ตะปูหรือน็อต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุที่มีขนาดเล็กและรับน้ำหนักไม่มากกันมาบ้างแล้วน่ะนะคะ อุปกรณ์ชนิดนั้นก็คือ “ปืนยิงกาวร้อน” นั่นเองค่ะ
ปืนยิงกาวร้อน นั้น ประกอบด้วยส่วนใช้งานสองส่วนด้วยกัน นั่นก็คือส่วนที่มีลักษณะคล้ายปืน ทำหน้าที่เป็นตัวที่ทำความร้อนและช่วยให้เราสามารถติดกาวร้อนนั้นในบริเวณที่ต้องการได้สะดวก และอีกส่วนหนึ่งก็คือตัวกาวเอง ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่ง คล้ายเทียนไข และจะละลายเป็นเนื้อกาวที่มีความเหนียวเมื่อเราใส่ไส้กาวลงไปในปืนซึ่งทำความร้อนจากกระแสไฟฟ้านอกจากใช้ในงานประดิษฐ์แล้ว ปืนยิงกาวร้อนยังสามารถใช้ซ่อมแซมอุปกรณ์และส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้อีกด้วยค่ะ เนื่องจากคุณสมบัติของกาวที่สามารถยึดติดได้ดีในวัสดุหลายประเภท เช่น ไม้ พลาสติด ผ้า กล่องกระดาษ
ปัจจุบันนี้ปืนยิงกาวร้อนมีให้เลือกหลายขนาดค่ะ ที่เห็นตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นสองขนาดด้วยกัน คือ ปืนยิงกาวร้อนขนาดเล็ก (10-25W) ใช้กับแท่งกาวขนาดเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 มม.และ ปืนยิงกาวร้อนขนาดใหญ่ (40-80W) ใช้แท่งกาวขนาดใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 11.2 มม.
วิธีใช้ปืนยิงกาวร้อนนั้นมีดังนี้ค่ะ
1. บรรจุแท่งกาวลงในปืนยิงกาวร้อน
2. เสียบปลั๊กทิ้งไว้จนกาวร้อน ประมาณ 5-6 นาที สังเกตเมื่อบีบไกปืนจะมีเนื้อกาวไหลออกมา ควรรอจนกว่าจะสามารถบีบกาวออกมาได้สะดวกนะคะ ถ้าฝืนกดไกปืนในขณะที่ยังมีความร้อนไม่พอให้แท่งกาวละลาย ไกปืนจะแข็งมาก จนอาจทำให้ตัวยิงกาวพังได้ค่ะ
3. นำไปติดวัสดุที่ต้องการ
4. จับวัสดุที่ติดค้างไว้ประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้กาวเย็นตัวลง
5. เมื่อเลิกใช้งานแล้วอาจมีปัญหาว่ากาวยังไม่ยอมหยุดไหล ให้จับแท่งกาวดึงถอยกลับมาเล็กน้อย กาวก็จะหยุดไหลได้สนิท
ข้อควรระวังในการใช้งานปืนยิงกาวร้อน
1. ควรทิ้งระยะให้ปืนกาวร้อนมากพอที่จะทำให้แท่งกาวละลาย และควรเว้นระยะให้ปืนกาวร้อนเต็มที่ก่อนจะนำไปติดชิ้นงานต่อไป
2. อย่าจับที่ปลายปืนกาวโดยเด็ดขาดเพราะมีความร้อนสูง
3. กาวที่ละลายจะมีัความร้อนสูงเช่นกัน ดังนั้นควรระวังไม่ให้โดนส่วนต่าง ๆ ของร่างกายขณะใช้งาน
4. ควรเพิ่มความระวังมากขึ้นเมื่อใช้ปืนกาวขนาดใหญ่ 40-80W เพราะความร้อนจะสูงกว่าปืนกาวขนาดเล็กค่ะ